เปิดให้เข้าชมแล้ว “Korat Mini Museum X Penlaos เขาใหญ่”

สัมผัสโลกแห่งบรรพชีวินอันน่าทึ่งก่อนที่มนุษย์จะยึดครองโลก

ชมพูนุท นำภา

ก่อนที่โลกจะเดินทางมาถึงวันนี้ ย้อนกลับไปอดีตกว่า 150 ล้านปีที่ผ่านมา ตรงที่ที่เรายืนอยู่เคยมีเผ่าพันธุ์ของไดโนเสาร์ และ สิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์มากมายอาศัยอยู่ พิสูจน์ทราบได้จากซากดึกดำบรรพ์ที่ขุดพบ

แหล่งเรียนรู้สำคัญในประเทศไทยพบหลายแห่งในภาคอีสาน โดยแหล่งสำคัญ “โคราชมหานครแห่งบรรพชีวิน หรือ เมืองแห่งฟอสซิล” เป็นแหล่งที่นักวิจัยญี่ปุ่นถึงกับมาลงทุนขุดเพื่อเสาะแสวงหาองค์ความรู้ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน และยังดำเนินต่อเนื่องถึงปัจจุบัน

เพราะว่าฟอสซิล คือ สิ่งเดียวที่จะเป็นกุญแจให้เราไขประตูสู่อดีตได้ โคราชจึงเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมรดกอันล้ำค่า!

แต่การจะผลักดันแหล่งท่องเที่ยวอันมีคุณค่านี้ให้โลกรู้โลกเห็น เป็นไปไม่ได้หากทำแต่เพียงใครคนใดคนหนึ่ง

วันนี้เราจึงเห็นการร่วมมือกันของคนจากหลายส่วนในจังหวัดนครราชสีมา เริ่มต้นนับหนึ่งกับภารกิจการขับเคลื่อนเรื่องนี้ไปด้วยกัน

ใครจะไปคิดว่าร้านอาหารอีสานสุดแซ่บ ร้านเป็นลาว เขาใหญ่ จะเนรมิตพื้นที่เล็กๆ ให้อัดแน่นไปด้วยสาระและความสนุกเข้าด้วยกัน ย่อส่วนพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองโคราชมาไว้ที่เป็นลาว ไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มารับประทานอาหาร รวมถึงผู้ที่สนใจก็สามารถแวะเข้ามาชมกันได้

ในมินิ มิวเซียม คุณจะได้เห็นอะไรบ้าง

-กิจกรรมขุดฟอสซิลจำลอง

-ถ่ายรูปไดโนเสาร์กับป่าเขาใหญ่

-ชมนิทรรศการงานศิลปะจาก เต้ย-คมกฤษ ภูมิศาสตร์ ศิลปิน LGBTQ+ แนวป๊อปอาร์ต เจ้าของผลงานที่ได้รับคัดเลือกให้ประดับอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน

-มุมช้อปปิ้ง ผลิตภัณฑ์บรรพชีวินจากชุมชนในพื้นที่โคราชจีโอพาร์ค (Korat Geopark)

ในวันเปิดตัวมีแขกพิเศษเป็นนักเรียนตัวน้อยๆในเขาใหญ่มาร่วมในงานวันเปิดด้วยความสนุกสนาน

นอกจากนี้ยังมีการประมูลงานศิลปะที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของไดโนเสาร์ที่หลอมรวมกับตัวตนของศิลปินจากเต้ย-คมกฤษ ภูมิศาสตร์ ศิลปินจากกาฬสินธุ์ดินแดนแห่งไดโนเสาร์เช่นกัน โดยการประมูลครั้งนี้มียอดรวม 45,000 บาท สร้างสีสันความสนุกให้กับงานเปิดไม่น้อย

ชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ถือเป็น 1 ในพื้นที่มรดกโลก ที่เราตั้งใจอนุรักษ์ทรัพยากรมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สมัยจอมพลป. พิบูลย์สงคราม ทำให้เขาใหญ่ซึ่งเป็นพื้นที่ใหญ่อันดับ 3 ของอุทยานทั้งหมด แต่ถือว่าที่มีการบุกรุกน้อยที่สุด หรือ แทบจะไม่มีการบุกรุก จึงเป็นหมุดหมายที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยี่ยมเยือน โดยเรามีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปี ตั้งแต่ปี 2566 เรามีนักท่องเที่ยวรวม 1.4 ล้านคน เป็นต่างชาติ 5 หมื่นคน ปี 2567 มีนักท่องเที่ยว 1.8 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 แสนคน ปี 2568 มีนักท่องเที่ยว 2.1 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.2 แสนคน เป็นข้อพิสูจน์ว่าเขาใหญ่เป็นป่าที่สมบูรณ์ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ และหลังจากนี้กำลังจะทำเรื่องรถส่องสัตว์ไฟฟ้าเพื่อลดมลภาวะ เพื่อจะทำให้เขาใหญ่เป็นมรดกโลกที่ทรงคุณค่าสืบต่อไป

ด้าน จิรศักดิ์ อ่วมอุไร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมา กล่าวว่า การที่จะมีแหล่งมรดกโลกถึง 3 แห่งอยู่ในจังหวัดเดียวกันถือว่ามีน้อยมาก ในฐานะของผู้ที่มีภารกิจในการดึงคนมาเที่ยวเราจะเดินหน้าเผยแพร่ให้ชาวโลกรู้ว่าเขาใหญ่ โคราช มีดีอะไร ที่สำคัญน่าดีใจที่เยาวชนของที่นี่มีความรู้ที่ดีว่าบ้านตัวเองมีอะไร สนใจประวัติศาสตร์ ทั้งยังมีใจอนุรักษ์ ทำให้มีความหวังว่าคนรุ่นหลังก็จะช่วยกันผลักดันให้เกิดการพัฒนาในทิศทางที่ดี ซึ่งททท.มีความยินดีอย่างมากที่ได้เข้าร่วมงานนี้

ด้าน เตเต้-พันชนะ วัฒนเสถียร นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ และ ผู้ก่อตั้งร้านอาหารเป็นลาว มองว่า ที่ที่เรานั่งทับอยู่นี้เต็มไปด้วยสิ่งที่มีคุณค่าจากอดีตนับล้านๆปี คล้ายกับเมืองซีอานที่มีสุสานจิ๋นซี ดังนั้นในฐานะผู้ประกอบการมองว่าเราต้องมีความรู้ เพื่อจะนำมาปรับใช้ในการขายผลิตภัณฑ์ที่เรามี ตอนนี้เราจึงต้องมาร่วมกันบูรณาการทุกฝ่าย นำของดีที่เรามีออกมาใช้ให้เป็น เพราะเท่าที่ไปสัมผัสกับนักท่องเที่ยวมา ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งเรียนรู้สร้างจิตสำนึก ซึ่งเขาใหญ่เรามีอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องใช้ให้เป็น และวันนี้เยาวชนในพื้นที่ คือ อนาคตที่สำคัญ

นอกจากนี้ในวันเปิดตัวมินิ มิวเซียม ยังมีเวทีสัมมนาวิชาการวงเล็กๆ โดย ผศ.ดร.ประเทือง จินตสกุล ผู้อำนวยการอุทยานธรณีโลกโคราช ผศ.ดร.ณัฏฐินี ทองดี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหิน และ ผศ.ดร.ณัฐกิตติ์ อินทร์สวรรค์ รองอธิการบดี ฝ่ายพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มาร่วมบรรยายให้กับเด็กนักเรียนตัวน้อยฟังอย่างสนุกสนานอีกด้วย

ผศ.ดร.ประเทือง เล่าว่า ไดโนเสาร์เป็นเรื่องสำคัญมาก แหล่งท่องเที่ยวหลายที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเมืองจากไดโนเสาร์ อาทิ ที่ญี่ปุ่น เมืองคัทสึยามา ที่มีประชากรเพียง 2 หมื่นคน แต่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศไปเที่ยวถึง 1 ล้านคน ซึ่งที่เขาใหญ่ก็มีไดโนเสาร์ที่เราก็สามารถพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวในชุมชนท้องถิ่นได้เช่นกัน โดยไม่ต้องรอแผนจากราชการเลย

“เราจำแนกไดโนเสาร์จากรอยเท้า เด็กๆ รู้ไหมว่าไดโนเสาร์พันธุ์กินเนื้อเคยเดินอยู่ที่เขาใหญ่นะ เราเจอไดโนเสาร์กินเนื้อ 2 ชนิดที่เขาใหญ่ เป็นไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่ กับ ไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดเล็ก พิสูจน์ได้จากการที่เราพบรอยเท้าปรากฏที่หินกลางแม่น้ำสายใหญ่”

ด้าน ผศ.ดร.ณัฏฐินี บอกว่า พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองโคราช มีของสำคัญจากอดีตหลายชิ้น เพื่อให้เราได้เรียนรู้อดีต เข้าใจปัจจุบัน และเพื่อจินตนาการถึงอนาคต เป็นแหล่งสำคัญที่นักวิจัยจากญี่ปุ่นมาลงทุนขุดค้นตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว เพราะที่นี่เป็นแหล่งสำคัญในการที่นักวิจัยจะได้สะสมองค์ความรู้ว่าไดโนเสาร์บนแผ่นดินที่ต่างกันมีความเหมือนหรือต่างอย่างไร

ผศ.ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมามีบทบาทการส่งเสริมอุทยานธุรณีโคราชมาอย่างต่อเนื่อง และได้รับการยอมรับ เรากำลังพัฒนาหลักสูตรไปสู่สากลรวมถึงเรื่องของบรรพชีวิน ที่สำคัญการเรียนการสอนไม่ได้จำกัดเฉพาะในมหาวิทยาลัย เรายังทำงานกับภาคส่วนต่างๆ ในหลายวงการเพื่อผลักดันเรื่องโคราชจีโอพาร์คให้ยิ่งใหญ่ระดับสากล เราตระหนักดีว่างานเหล่านี้เดินคนเดียวไม่ได้ ต้องมีเพื่อนจากหลากหลายอาชีพที่มาช่วยกันผลักดันให้สำเร็จ

สำหรับคนที่สนใจมาชมมินิ มิวเซียม เปิดให้เข้าชมได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ช่วงเดือนธันวาคม 2568 - มกราคม 2569 ที่ร้านเป็นลาว เขาใหญ่ และ ร้าน Flory Day Khaoyai

ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือเผยแพร่เนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนโดยไม่ได้รับอนุญาต