สัมผัสสุนทรียะแห่งรสชาติ

เขาใหญ่ที่เปรียบเป็น Melting Pot หม้อใบใหญ่ที่รวมหลอมผู้คนจากทั่วสารทิศให้เข้ามาอยู่รวมกัน จนกลายเป็นดินแดนที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว เมื่อลงไปในรายละเอียดแต่ละพื้นที่ ล้วนมีสิ่งมหัศจรรย์ที่รอคอยการค้นพบ ไม่ว่าจะเป็นผู้คน ผลผลิตทางการเกษตร วัฒนธรรม ธรรมชาติ หรืองานศิลปะ

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้ Hotel Labaris Khao Yai โรงแรมหรูท่ามกลางแมกไม้ป่าเขา ที่เมื่อแรกสัมผัสราวกับหลงเข้าไปเดินอยู่ในเทพนิยาย ได้จัด Fine Dining มื้ออาหารสุดพิเศษขึ้นมา โดยเลือกเฟ้น 7 สิ่งมหัศจรรย์ในพื้นที่มานำเสนอเป็น 7 Wonders’ Culinary Journey ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบคุณภาพจากฟาร์มท้องถิ่น การเข้าถึงวัตถุดิบพรีเมียม งานศิลปะจากลุงน้อยแห่งสวนซ่อนศิลป์ ศิลปินสีน้ำระดับนานาชาติ นำมาคลุกเคล้ากันอย่างประณีตเพื่อเปลี่ยนค่ำคืนอันสามัญสู่ความทรงจำที่แสนพิเศษ ที่ครีเอทและปรุงโดย 2 เชฟหนุ่มรุ่นใหม่ เชฟเจมส์-พัศกฤต ธนาอัญมณี ผู้มีประสบการณ์ร่วมงานกับเชฟมิชลิน สตาร์ มาแล้วจากหลายประเทศ และเชฟโอม-ทรงพล สิทธิสร ครีเอทีฟเชฟ จาก The Fable Feast Khao Yai

ตลอดการเดินทางไปกับอาหารทั้ง 6 คอร์ส คุณจะได้พบกับ 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่เชฟคัดสรรนำมาปรุงอาหารในครั้งนี้ อันดับแรกที่ขาดไม่ได้ คือ “ไวน์กราน-มอนเต้” ไวน์เขาใหญ่ที่การันตีโดยรางวัลระดับโลก นำมาจับคู่กับอาหารได้อย่างสนุกและลงตัว

ผลผลิตจาก “ฟาร์มมี By Green innovate” ได้แก่ “ไข่ผำ” ที่เลี้ยงด้วยน้ำดื่ม ซูเปอร์ฟู้ดที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ และ “ไมโครกรีน” เทรนด์ผักจิ๋วที่ความนิยมเริ่มแพร่เข้าถึงง่ายไม่ได้จำกัดอยู่ใน Fine Dining เท่านั้น

“เนื้อวากิวโคราช” ที่เลี้ยงดูด้วยความเอาใจใส่จากฟาร์มในอำเภอสูงเนิน จนได้รับการยอมรับว่าเป็นเนื้อคุณภาพเยี่ยมเทียบเท่าวากิวญี่ปุ่น

และเพื่อที่จะบอกว่ามาเขาใหญ่ไม่ได้เข้าถึงวัตถุดิบเกรดพรีเมียมยากแต่อย่างใด จึงได้คัดเลือก “พรีเมียม ฟู้ด” จากบริษัทพรีเมียม ฟู้ด ผู้ให้บริการวัตถุดิบอิมพอร์ตคุณภาพสูงมาเสริมทัพความมหัศจรรย์ในครั้งนี้ด้วย

ที่ขาดไม่ได้ “เชฟเขาใหญ่” ผู้ที่รังสรรค์เมนูต่างๆ ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ และสุดท้ายที่มาเติมเป็นอาหารตาอาหารใจให้บรรยากาศงานเต็มอิ่มมากขึ้น ก็คือผลงานศิลปะจาก “ลุงน้อย-สุรินทร์ สนธิรติ” ศิลปินสีน้ำระดับนานาชาติ เจ้าของสวนซ่อนศิลป์ สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอีกที่หนึ่งของเขาใหญ่เช่นกัน

ถ้าพร้อมแล้ว เรามาท่องอาณาจักรเขาใหญ่ไปกับ 7 Wonders’ Culinary Journey กันเลย

คอร์ส 1 Amuse Bouche : The Taste Awakening เป็นถุงทองพรีเมียมจากเขาใหญ่ที่ทำจากวัตถุดิบออแกนิกที่ปลูกในเขาใหญ่ เช่น อโวคาโด ข้าวโพดหวาน และทับทิม ทั้งหมดเล่นสีเปล่งประกายดั่งอัญมณี

“ผมเป็นสายแกสโตรโนมี มีความสนใจเรื่องศาสตร์และศิลปะของการทำอาหาร การกิน และการดื่ม มีโอกาสทำเชฟเทเบิ้ลมา 5 ครั้งแล้ว ครั้งนี้มีคอนเซ็ปต์ที่จะนำ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของเขาใหญ่มารวมกัน ดังนั้นในแต่ละคอร์สจะมีความครีเอทีฟอยู่ในนั้น และด้วยความอุดมสมบูรณ์ของผักผลไม้ในเขาใหญ่ ทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจในการทำถุงทอง แต่จะเป็นถุงทองที่มีความหรูหราพรีเมียม ทำ 3 แบบ คือ ถุงทองโกลด์ ถุงทองมรกต และถุงทองรูบี้ ซึ่งในแต่ละสีจะมีความแตกต่างของวัตถุดิบหลักในการทำ มีทั้งข้าวโพดหวาน อโวคาโด้ และ ทับทิม” เชฟโอม-ทรงพล สิทธิสร ผู้รังสรรค์เล่าความมาเป็นให้แขกที่มาร่วมงานฟังอย่างเป็นกันเอง

คอร์ส 2 Appetizer : Khao Yai chicken Roulade with Korat Essence ไก่โคราชต้มน้ำปลายัดไส้สมุนไพร

“คอร์สนี้ได้แรงบันดาลใจจากไก่โคราช ซึ่งเป็นไก่สายพันธุ์ที่ได้รับการพัฒนาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี(มทส.) ที่เลี้ยงในเขาใหญ่ และวังน้ำเขียว ความโดดเด่นคือไก่จะมีเนื้อที่เหนียวนุ่มและมีไขมันต่ำ เมนูนี้จะนำไก่ไปซูวีกับน้ำปลา ภาษาบ้านๆ ก็คือไก่ต้มน้ำปลา แต่เรานำมาอินฟิวส์ จนน้ำปลากลายเป็นซอสให้รสชาติที่จัดจ้านและละมุน” เชฟเจมส์-พัศกฤต ธนาอัญมณี อธิบายผลงานจานที่ 2 ที่แขกทั้งงานพร้อมใจกันยกนิ้วให้

คอร์ส 3 Salad : Khao Yai Earth Salad สลัดผักเคลกรอบ และปลาข้าวสารญี่ปุ่นเพื่อสุขภาพ โดยเชฟโอม

“สลัดจานนี้ได้แรงบันดาลใจจากความเขียวขจีของเขาใหญ่ เพื่อให้คนที่ไม่ชอบผักสามารถรับประทานได้ ผมเลือกที่จะนำเคลไปดีไฮเดรต ด้วยการใช้อุณหภูมิต่ำเพื่อให้ผักคายน้ำออกมา ใส่มันหวานญี่ปุ่น และปลาข้าวสารเป็นโปรตีนและแคลเซียม ราดด้วยน้ำสลัดงาดำ เป็นจานที่นำมาแพริ่งกับไวน์ Sakuna Rose ที่ให้เทสโน้ตที่เป็นองุ่นสีแดง ครีมมี่นิดๆ เข้ากันมากๆ”

คอร์ส 4 Pasta : Green Pearls hidden in Khao Yai’s Forest พาสต้า Cappelletti ไส้ไข่ผำ เสิร์ฟพร้อมหอยตลับเนื้อแน่น โดยเชฟโอม

“ผมอยากนำเสนอเป็นพาสต้าหมวกพยาบาล ไส้ด้านในเป็นไข่ผำ พืชน้ำที่มีคุณค่าสูงมาก เสิร์ฟพร้อมหอยตลับอิมพอร์ตจากฝรั่งเศส อยากให้เริ่มกินพาสต้าก่อน แล้วกินซุปตาม”

และเมื่อแพริ่งกับไวน์ Gradient verdello 2024 ซึ่งเป็นองุ่นที่มีสายพันธุ์ต้นกำเนิดที่โปตุเกส ให้กลิ่นหอมเหมือนผลไม้เมืองร้อน สดชื่นเหมือนกลิ่นหญ้าตัดใหม่ ยิ่งทำให้การกินสนุกขึ้นอีกเท่าตัว

คอร์ส 5 Main (เลือกได้ 1 เมนู) : Red Prawn Risotto alla Milanese รีซอตโต้แชฟฟรอนกุ้งแดงนำเข้าจากเมดิเตอร์เรเนียน โดยเชฟโอม หรือ Korat Wagyu Sando แซนด์วิชเนื้อวากิวโคราช ทรัฟเฟิล โดยเชฟเจมส์

สำหรับคอร์สนี้มีให้เลือกระหว่างวัตถุดิบนำเข้าพรีเมียม กุ้งแดงจากสเปน และวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างเนื้อวากิวโคราช

ความพิเศษของเนื้อวากิวโคราช “คุณประสาท บุญญานันท์” เจ้าของฟาร์มวากิวโคราช เล่าว่า เนื้อวากิวโคราชเลี้ยงที่อำเภอสูงเนิน ที่นี่เป็นเมืองอุตสาหกรรมเกษตร มีทั้งมันและข้าวโพด จึงเหมาะแก่การเลี้ยงโคเนื้ออย่างมาก โดยคนญี่ปุ่นแนะนำว่าข้าวโพดจะทำให้เนื้อมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ ที่สำคัญเราเป็นฟาร์มปิด เราเลี้ยงให้วัวกินอิ่มนอนหลับไม่ฉีดวัคซีน ไม่ใช้ยา ทำให้เราได้เนื้อที่ดี ซึ่งนอกจากเป็นพันธุกรรมจากญี่ปุ่นแล้ว ด้วยการเลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง จึงทำให้ได้เนื้อที่แตกต่างจากญี่ปุ่น พัฒนาจนได้ความนุ่มหอมแตกต่างจากเนื้อทั่วไป

“รสชาติเนื้อเราจะมีความเข้มข้นกว่าญี่ปุ่น เพราะเราให้อาหารที่เป็นธรรมชาติ พัฒนามา 12 ปี จนได้เนื้อที่ดีที่สุดเหมาะกับคนไทย”

คอร์ส 6 Dessert : The Abundant Mountain of Khao Yai เป็น Tea-ramisu ชาเขียวครีมชีสและกานาชมัทฉะ

“ขนมหวาน เราจะใช้เลดี้ฟิงเกอร์เคลือบมัทฉะ ออกแบบใส่ขนมไว้ในขวดแก้ว ถ้ารับประทานไม่หมดนำกลับบ้านได้ คอร์สนี้แพริ่งคู่กับไวน์บุษบา ซึ่งเป็นไวน์หวานของกราน-มอนเต้ เป็นไวน์ที่มีความหวานธรรมชาติ 100% ให้กลิ่นรสชาติโทนมะม่วง เสาวรส ผลไม้เมืองร้อน" เป็นการปิดท้ายอย่างละมุนละไมโดยสมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้ยังมีงานแสดงภาพชุดสีน้ำ Reflection of my life ภาพสะท้อนชีวิต จากลุงน้อยในห้องที่อยู่ข้างกัน สามารถเดินชมก่อนหรือหลังดินเนอร์มื้อพิเศษก็ได้ทั้งนั้น

“ผมชอบวาดภาพเงาสะท้อนน้ำ ชุดนี้มีทั้งหมด 12 รูปไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน เขียนจากภาพถ่าย และภาพสเก็ตขณะเดินทางท่องเที่ยวที่เวนิช และฮัลล์สตัทท์ จะจัดแสดงอยู่ที่ลาบาริสเป็นเวลา 2 เดือน รายได้ครึ่งหนึ่งจะมอบให้กับโรงพยาบาลปากช่องนานา นอกจากนี้ยังมีภาพที่วาดสด เป็นภาพธรรมชาติเขาใหญ่ ชื่อภาพเขาใหญ่ยั่งยืน และภาพสีน้ำมัน+อะคริลิค โชว์ภาพความเป็นลาบาริส ผมจินตนาการว่าคล้ายเป็นสวรรค์ มีแสง มีสัตว์ในเทพนิยายซุกซ่อนอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้ ภาพใหญ่นี้มีความพิเศษให้ผู้ร่วมงานได้ร่วมกันวาดภาพ แตะปากกาสีทอง และ สีเงินช่วยกันแต้มเป็นจุดดวงดาว และหิ่งห้อย แทนความร่วมมือร่วมใจของคนเขาใหญ่” ลุงน้อยกล่าวถึงงานที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้

ด้าน “ไกรพล สิงห์ดี” อายุ 39 ปี ผู้จัดการแผนกอาหารและเครื่องดื่ม โรงแรมลาบาริสเขาใหญ่ กล่าวว่า งานครั้งนี้เป็นการรวบรวมจุดเด่นของเขาใหญ่ กลายเป็น 7 wonders จะมีทั้งวัตถุดิบ อาหาร ไวน์ คอมมูนิตี้ของเขาใหญ่ เป้าหมาย อยากให้นักเดินทางที่มาเที่ยวเขาใหญ่ได้ประสบการณ์ในเรื่องของของดีเขาใหญ่ที่น่าประทับใจ

สำหรับผู้ที่สนใจ แคมเปญนี้จะจัดอีก 2 เดือน เป็นแบบ Sit Down Dinner 6 คอร์ส รวมถึงไวน์แพริ่ง รายละเอียดติดตามที่เพจเฟซบุ๊ค Hotel Labaris Khao Yai ได้แล้ววันนี้

© 2025 Khaoyai Connect. สงวนลิขสิทธิ์

ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือเผยแพร่เนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนโดยไม่ได้รับอนุญาต